นโยบายความเป็นส่วนตัว

graphic
graphic
graphic

นโยบายความเป็นส่วนตัว

  • 11.05.2565
  • 14719 ครั้ง

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (”บริษัทฯ”) ใส่ใจและตระหนักถึงความสำคัญในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จึงมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทฯ จะดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นเพื่อปกป้องคุ้มครองและบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างมีประสิทธิภาพให้เป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ (“นโยบาย”) และภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ. ศ. 2562 (“.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)

นโยบายฉบับนี้จะกำหนดรายละเอียดการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทฯ อันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ การเก็บรวบรวม การประมวลผล การเปิดเผย และการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ได้รับผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย และแพลทฟอร์มต่าง ๆ ที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านสามารถค้นหาและรับบริการจากบริษัทฯ และ/หรือคู่ค้าของบริษัทฯ รวมถึงรายละเอียดการดำเนินการของบริษัทฯ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านว่าบริษัทฯ ดำเนินการอย่างไร เมื่อใด ด้วยเหตุใด และรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลใด และในขั้นตอนใดที่บริษัทฯ ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้ยังกำหนดรายละเอียดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การรักษาความลับและการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ที่ข้อมูลส่วนบุคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎและข้อบังคับอื่นใด หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ (ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมหรือนำมาใช้แทนเป็นครั้งคราว) ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอความร่วมมือจากท่านในการอ่านนโยบายฉบับนี้เพื่อทำความเข้าใจรายละเอียดการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทฯ และสิทธิต่าง ๆ ที่ท่านมีในกรณีที่บริษัทฯ เก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้หรือท่านประสงค์จะใช้สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ภายใต้หัวข้อ “ติดต่อบริษัท”  ในนโยบายฉบับนี้

 

1.      ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวม

1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม และการระบุตัวตนของท่านนั้นสามารถทำได้โดยใช้ข้อมูลดังกล่าวเพียงอย่างเดียวหรือใช้ข้อมูลหลายข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่หรือที่บริษัทฯ สามารถเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นรวมกัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับธุรกรรม ผลิตภัณฑ์หรือบริการ กิจกรรมหรืองาน หรือความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวมอาจประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ดังนี้

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อายุ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส ที่อยู่ อาชีพ ตำแหน่งงาน สถานที่ทำงาน รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่ของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email address) หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เสียงและรูปถ่าย
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัตรเครดิต เลขที่บัญชีธนาคาร รายได้ต่อเดือน
  • ข้อมูลระบุทรัพย์สินของบุคคล เช่น ทะเบียนรถยนต์
  • ข้อมูลความสนใจ เช่น รูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านสนใจ งานอดิเรก กิจกรรม เครือข่ายสังคม (Social Network) ที่ใช้ประจำ กีฬา หรือการท่องเที่ยว และอื่น ๆ
  • ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกหรือไม่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์และการใช้บริการของท่าน เช่น เหตุผลในการซื้อ งบประมาณ วัตถุประสงค์ ผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้เปรียบเทียบ ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ ข้อมูลการเข้าชมผลิตภัณฑ์และการบริการ
  • ข้อมูลซึ่งระบุตำแหน่งพื้นที่ของท่านในขณะที่ใช้งานเว็บไซต์ผ่านระบบ GPS อย่างไรก็ตาม หากท่านต้องการปกปิดข้อมูลนี้ ท่านสามารถปิดระบบ GPS บนโทรศัพท์มือถือของท่านได้
  • ข้อมูลพฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยบริษัทมีสิทธิใช้คุกกี้ (Cookies) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น หมายเลขไอพี (IP address) ชนิดของเว็บเบราว์เซอร์ (Web browser) ที่ใช้ในการเข้าถึง หน้าเว็บ (Web page) ที่เข้าเยี่ยมชม เวลาที่เยี่ยมชม และเว็บไซต์ที่อ้างถึงเว็บของบริษัท
  • ลักษณะการใช้งานแอปพลิเคชัน โดยจะมีการเก็บบันทึกการใช้งาน (Log) ของท่านบนแอปพลิเคชันของทางบริษัท
  • ข้อมูลอื่น ๆ ที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เชื้อชาติ ปรากฎตามสำเนาหนังสือเดินทางบางประเทศ
  • ศาสนา ปรากฎตามสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • ประวัติอาชญากรรม
  • ข้อมูลสุขภาพหรือความพิการทางร่างกาย  
  • ข้อมูลทางชีวภาพ (ถ้ามี)

           

1.2 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรงเมื่อท่านเข้าติดต่อกับบริษัทฯ เข้าใช้บริการ เข้าทำสัญญา ยื่นเอกสารใบสมัคร ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์หรือส่งจดหมาย เข้าใช้งานเว็บไซต์  แอปพลิเคชัน หรือโซเชียลมีเดียของบริษัท อาทิ แอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก (Facebook), แอปพลิเคชันอินสตาแกรม (Instagram), แอปพลิเคชันทวิตเตอร์ (Twitter), แอปพลิเคชันติ๊กต็อก (Tiktok) หรือ แอปพลิเคชันไลน์ (Line) เป็นต้น และธุรกรรมอื่น ๆ ที่ท่านเข้าทำกับบริษัท หรือผ่านตัวแทน (Agent) ของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยอัตโนมัติเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ดูโฆษณาของบริษัทฯ หรือใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ    

นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอ้อมผ่านแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะและ/หรือจากบุคคลอื่น เช่น

  • ผู้ให้บริการและบริษัทคู่ค้าของบริษัทฯ
  • กลุ่มบริษัทของบริษัท
  • บริษัทนายจ้างของท่าน
  • บุคคลภายนอกซึ่งได้แจ้งให้ท่านทราบในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลว่าข้อมูลของท่านจะถูกเปิดเผยและโอนมายังบริษัท
  • รัฐบาล หน่วยงานตามกฎหมาย หรือหน่วยงานการกำกับดูแล และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
  • บุคคลอื่นใดที่ท่านได้อนุญาตหรือมอบหมายให้มีการติดต่อทำธุรกรรมกับบริษัท

1.3 ในกรณีที่ท่านมีการส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นให้แก่บริษัทฯ ท่านตกลงจะดำเนินการดังต่อไปนี้

  1. แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบว่าท่านกำลังเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวให้บริษัทฯทราบ
  2. ขอรับความยินยอมในการให้ข้อมูลจากบุคคลดังกล่าว
  3. แจ้งให้บุคคลดังกล่าวเข้าไปยังนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ
  4. ให้บุคคลดังกล่าวทราบรายละเอียดเนื้อหาของนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

1.4  ในกรณีที่ท่านไม่ให้ ไม่สามารถให้ หรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทฯ ดำเนินการใดอันเกี่ยวข้องกับการให้บริการและ/หรือจัดหาผลิตภัณฑ์แก่ท่าน บริษัทฯ อาจไม่สามารถติดต่อท่าน เข้าทำสัญญากับท่าน ให้บริการและ/หรือจัดหาผลิตภัณฑ์แก่ท่าน หรือปฏิบัติภาระหน้าที่ของบริษัทตามสัญญาที่ทำไว้กับท่านได้

2. เหตุผลและวิธีการเก็บรวบรวม ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลของส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้และเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยบริษัทฯ จะดำเนินการภายใต้กฎหมายและอ้างอิงฐานโดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์และประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

2.1      ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ ดังต่อไปนี้

  1. ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  2. ปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ เช่น กฎหมายการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต กฎหมายเกี่ยวกับการทวงถามหนี้ กฎหมายแรงงาน กฎหมายภาษี กฎหมายการบัญชี กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่น ๆ ที่บริษัทฯ อยู่ภายใต้การบังคับทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ
  3. ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ และ/หรือ คำสั่งของผู้มีอำนาจที่บริษัฯ ทต้องปฏิบัติตาม เช่น คำสั่งศาล หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
  4. ดำเนินการต่าง ๆ เพื่อป้องกันและสอบสวน และดำเนินการแก้ไข รวมถึงดำเนินการอื่นใดตามที่เจ้าหน้าที่ของรัฐร้องขอ อันเกี่ยวข้องกับธุรกิจ ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ รวมถึงการประเมินการปฏิบัติตามกฎหมาย

2.2     ฐานประโยชน์ที่สำคัญต่อชีวิต

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยคำนึงถึงฐานประโยชน์ที่สำคัญต่อชีวิตเพื่อป้องกันหรือหลีกเลี่ยงอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลของท่าน

2.3 ฐานสัญญา

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้

  1. การเข้าทำสัญญาระหว่างบริษัทและท่าน
  2. การจัดหาผลิตภัณฑ์และการให้บริการต่าง ๆ แก่ท่าน
  3. การประเมิน ตรวจสอบ วิเคราะห์ พิจารณาอนุมัติ และทบทวนคำขอสินเชื่อ การต่ออายุสินเชื่อ หรือคำร้องขอใด ๆ ของท่านอันเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ
  4. การบริหารและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอันเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่านและบริษัทฯ
  5. การชำระเงินและบันทึกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่านและบริษัทฯ
  6. การกำหนดจำนวนหนี้ที่ท่านค้างชำระหรือที่ต้องชำระให้แก่ท่าน
  7. การเรียกเก็บเงินหรือทวงถามยอดเงินใด ๆ ที่ท่านหรือบุคคลใด ๆ ซึ่งเป็นผู้ให้หลักประกันหรือคำมั่นในการเข้ารับภาระหนี้สินที่ต้องชำระของท่าน
  8. การใช้สิทธิใดๆ ที่บริษัทฯ อาจมีเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการที่บริษัทฯ จัดให้แก่ท่าน
  9. การให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้แก่ตัวแทนและผู้จัดจำหน่ายของบริษัทฯ เพื่อการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ให้แก่ท่าน
  10. เพื่อดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกบุคลากรในการสมัครงานและ/หรือการฝึกงาน ก่อนการเข้าทำสัญญาว่าจ้างพนักงานและ/หรือการฝึกงาน

2.4     ฐานประโยชน์อันชอบธรรม

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานประโยชน์อันชอบธรรม ที่บริษัทฯ หรือบุคคลภายนอกยึดถือ เว้นแต่ในกรณีที่ประโยชน์หรือสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านจะอยู่เหนือประโยชน์อันชอบธรรมนั้น ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาประโยชน์ สิทธิและเสรีภาพของท่านแล้ว บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานประโยชน์อันชอบธรรมในกรณีดังต่อไปนี้

  1. การปกป้องสิทธิ ทรัพย์สิน ความปลอดภัย หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ หรือของกลุ่มบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการต่าง ๆ ที่สามารถกระทำได้เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเสียหายที่บริษัทฯ อาจจะได้รับ
  2. การก่อตั้ง ปฏิบัติตาม ใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายของบริษัทฯ อันเกี่ยวเนื่องกับข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของท่าน
  3. การติดต่อสื่อสารกับท่านในเรื่องทางธุรกิจซึ่งเกี่ยวข้องกับคำขอ ข้อซักถาม และ/หรือการเข้าทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทฯ
  4. การรวบรวม จัดทำ และบันทึกรายชื่อบุคคลที่ไม่ต้องการรับข้อมูลหรือการเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการ (Do-not-contact list หรือ Suppression list)
  5. การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจ หรือตัวแทนของ บริษัทฯ ลูกค้าและ/หรือคู่ค้าของบริษัทฯ

2.5     สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านในการก่อตั้ง ใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายหรือการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นแล้วหรืออาจเกิดขึ้นในอนาคต ภายใต้ฐานสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายนี้

2.6     ฐานความยินยอม

นอกเหนือจากเหตุผลทางกฎหมายข้างต้น บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ความยินยอมของท่าน โดยบริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านเฉพาะในกรณีที่บริษัทฯ ไม่มีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การเก็บรวบรวมและประมวลผลของบริษัทฯ อาจมีผลกระทบหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวบริษัทฯ อาจขอความยินยอมจากท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ติดต่อ และแจ้งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ รวมถึงสิทธิประโยชน์ โปรโมชันที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และการบริการให้ท่านทราบผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ของบริษัทหรือผ่านทางบุคคลอื่นใดที่บริษัทฯ กำหนด 
  2. เพื่อจัดทำแผนการตลาดและแผนส่งเสริมการขาย
  3. เพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่กลุ่มบริษัทซิงเกอร์ กลุ่มบริษัทเจ มาร์ท และ/หรือพันธมิตรทางการค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ บริการ หรือแจ้งสิทธิประโยชน์ การประชาสัมพันธ์ ข้อเสนอพิเศษ ข้อมูลทางการตลาด และการเผยแพร่ข้อมูลส่งเสริมการขาย ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทดังกล่าว
  4. เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล วิจัย ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อการพัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบต่าง ๆ ที่จะช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอและให้บริการในมาตรฐานที่สูงขึ้น หรือเพิ่มสิทธิและผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ท่าน
  5. เพื่อเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สมรสและบุคคลอ้างอิงของท่าน

หากบริษัทฯ จำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะชี้แจงและระบุให้ท่านทราบอย่างชัดเจนว่าบริษัทฯ    จะเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดและเพื่อวัตถุประสงค์ใดเพื่อให้ท่านตัดสินใจว่าจะให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ หรือไม่ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการตามธุรกรรมที่ตกลงไว้ หรือจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้

3.   การแจ้งการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะแจ้งวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ท่านทราบเสมอ ไม่ว่าจะก่อน หรือ ณ เวลาที่ทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ยกเว้นในบางกรณีที่บริษัทฯ อาจไม่ต้องแจ้งถึงการเก็บและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ท่านทราบ ดังนี้

  1. เมื่อท่านได้รับทราบถึงวัตถุประสงค์หรือรายละเอียดการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแล้ว
  2. เมื่อการแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ หรือรายละเอียดของการเก็บและประมวลผลข้อมูลของบริษัทฯ ไม่อาจสามารถกระทำได้ หรือเป็นการขัดขวางการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งบริษัทฯ มีการใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิ เสรีภาพและผลประโยชน์ของท่าน
  3. เมื่อการเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นเป็นกรณีเร่งด่วนตามที่กฎหมายกำหนด และบริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของท่าน หรือ
  4. เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการปฏิบัติหน้าที่หรือวิชาชีพของบริษัทฯ และบริษัทฯ ได้ใช้ข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ดังกล่าวและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับตามที่กฎหมายกำหนด 

4.   การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อให้บุคคลต่อไปนี้สามารถให้ความช่วยเหลือเมื่อท่านร้องขอ และตามความจำเป็นเพื่อการทำธุรกรรมหรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับบริการตามที่ระบุไว้ข้างต้น

  1. บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสจี โบรคเกอร์ จำกัด  บริษัท เอสจี เซอร์วิสพลัส จำกัด บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด  บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์คเซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)  บริษัท เจมาร์ท ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด  บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด  บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด  บริษัท บีนส์แอนด์บราวน์ จำกัด  บริษัท เจ อีลิท จำกัด และ บริษัท เจจีเอส ซินเนอร์จี พาวเวอร์ จำกัด
  2. พนักงานของบริษัทและกลุ่มบริษัท ตาม (1) และ (2) 
  3. บริษัทที่ปรึกษา รวมถึงทนายความ ช่างเทคนิค และผู้สอบบัญชีที่ให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และการดำเนินคดีทางกฎหมาย
  4. คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่บริษัทหรือกลุ่มบริษัทว่าจ้างในขณะนี้หรือจะได้ว่าจ้างในอนาคต หรือผู้ที่ให้บริการในนามของบริษัทหรือกลุ่มบริษัท
  5. ผู้ให้บริการที่ดูแลบริการเว็บไซต์ของบริษัทหรือระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ๆ ที่เก็บรักษาหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในนามของบริษัท ภายใต้เงื่อนไขการรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด
  6. ผู้ที่ได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนของบริษัทฯ ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ รวมถึงตัวแทนผู้รับจ้างของบุคคลนั้น
  7. บุคคลอื่น รวมถึงตัวแทน ผู้รับจ้างของบุคคลนั้น ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ การจัดกิจกรรมทางการตลาด การเสนอข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ เช่น การรับชำระเงิน การติดตามทวงหนี้ การจัดทำข้อมูลเอกสาร ระบบเทคโนโลยี  และการส่งเอกสาร เป็นต้น
  8. ผู้เข้าครอบครองธุรกิจและทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและทรัพย์สินของบริษัทฯ ในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การโอนกิจการไม่ว่าจะทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน การขาย การซื้อ การร่วมทุน การมอบ โอนหรือจำหน่ายจ่ายโอนธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้นไม่ว่าจะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบริษัท หรือธุรกรรมใด ๆ ในลักษณะเดียวกัน และ/หรือ
  9. หน่วยงานทางกฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานดำเนินคดีและหน่วยงานของรัฐ คู่กรณีในคดีความ หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายหรือกฎข้อบังคับ หรือโดยประการอื่นเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทฯ สิทธิของบุคคลภายนอก หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือ เพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือโดยประการอื่นแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยในประเทศหรืออาณาเขตใด ๆ หรือในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทฯ ต้องเปิดเผย

5.   การโอนข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจพิจารณาโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังกลุ่มบริษัทหรือบุคคลภายนอกนอกราชอาณาจักรไทยภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในเอกสารนี้ บริษัทฯ จะโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทยเห็นว่ามีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศที่มีมาตรฐานคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะมีการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของท่าน หรือโอนข้อมูลต่อเมื่อดำเนินการตามข้อยกเว้นข้อใดข้อหนึ่งตามที่กำหนดไว้ในพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้วเท่านั้น ดังนี้

  1. เฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีการโอนข้อมูลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
  2. เมื่อท่านได้รับทราบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากขาดการมาตรฐานความปลอดภัยหรือการป้องกันที่เพียงพอและท่านได้ให้ความยินยอมอย่างชัดเจนในการโอนข้อมูล
  3. ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการโอนข้อมูลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับท่าน หรือการดำเนินมาตรการก่อนทำสัญญา (pre-contractual) ตามที่ท่านร้องขอ
  4. ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการโอนข้อมูลเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทและบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน
  5. ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการโอนข้อมูลเพื่อปกป้องท่านหรือบุคคลอื่นจากอันตรายถึงแก่ชีวิต ในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอม หรือ
  6. ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการโอนข้อมูลด้วยเหตุผลสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

6.   สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
6.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลและขอสำเนาข้อมูล
ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัทฯ เว้นแต่ บริษัทฯ จะมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านภายใต้กฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือหากคำขอดังกล่าวจะส่งผลกระทบอันร้ายแรงต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
6.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ถูกต้อง และปรับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันและครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด 
6.3 สิทธิในการขอลบข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุทางกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอของท่าน
6.4 สิทธิในการจำกัดการใช้ข้อมูลของท่าน
ท่านมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทฯ จำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีต่าง ๆ เช่น เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างดำเนินกระบวนการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัทฯ มีการจำกัดการใช้ข้อมูลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป
6.5 สิทธิในการคัดค้าน 
ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯดำเนินการภายใต้ฐานผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อทำการตลาดโดยตรง การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่ บริษัทฯ จะมีเหตุอันชอบธรรมในการปฏิเสธคำขอของท่าน ตัวอย่าง เช่น บริษัทฯ มีเหตุผลตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ประมวล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือการเก็บรวบรวม ประมวล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นเป็นไปเพื่อก่อตั้ง ปฏิบัติตาม ใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ
6.6 สิทธิในการโอนข้อมูล 
ท่านมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ สามารถจัดเตรียมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านได้หรือใช้กันได้ทั่วไปโดยใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์อัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยได้โดยวิธีอัตโนมัติ นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งบริษัทฯ ได้จัดส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านด้วยเหตุทางเทคนิค หรือเนื่องจากบริษัทฯ ได้ใช้สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอ
6.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม 
ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ไม่ว่าจะในเวลาใดก็ตาม ตามวิธีการและขั้นตอนการขอถอนคำยินยอมที่บริษัทฯ กำหนด เว้นแต่ด้วยลักษณะประเภทของความยินยอมนั้นทำให้การขอถอนคำยินยอมไม่สามารถกระทำได้ ทั้งนี้ ภายหลังจากการถอนความยินยอมดังกล่าว บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างเต็มความสามารถ หรือตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ต่อท่านได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลไว้เพื่อการตรวจสอบการให้บริการแก่ท่าน หรือเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยบริษัทฯ จะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นอีกต่อไป
6.8. สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน 
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว บริษัทฯ ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ ได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในโอกาสแรก
ท่านสามารถใช้สิทธิดังกล่าวโดยยื่นเรื่องร้องขอผ่านช่องทางศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านสามารถดูรายละเอียดช่องทางการติดต่อได้ภายใต้หัวข้อ “ติดต่อบริษัท” ในนโยบายฉบับนี้ และในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ อาจขอให้ท่านยืนยันตัวตนหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการร้องขอเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ บริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำขอของท่าน ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำขอดังกล่าว
ในกรณีที่มีการร้องขอติดต่อกันเกินกว่า 3 ครั้ง ภายใน 15 วันทำการหรือในกรณีที่คำขอนั้นเกินกว่าเหตุหรือไม่มีมูลความจริง บริษัทฯ มีสิทธิและดุลพินิจที่จะดำเนินการตามคำขอ ปฏิเสธคำขอ หรือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดำเนินการตามคำขอของท่านตามสมควร
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธิที่จะปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุผลทางกฎหมาย ซึ่งในกรณีดังกล่าวบริษัทฯจะแจ้งการปฏิเสธพร้อมด้วยเหตุผลอันสมควรให้ท่านทราบ

7.   ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ไม่มีนโยบายที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเกินกว่าที่จำเป็น โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่งบริษัทฯ กลุ่มบริษัท และ/หรือ บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องอาจทำข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ลบ ทำลาย นำออกจาก หรือโดยประการอื่นเพื่อกำจัดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากฐานข้อมูลของบริษัทอย่างถาวร เมื่อบริษัทฯ พิจารณาเห็นว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป หรือในกรณีดังต่อไปนี้

  1. บริษัทฯ ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามที่บริษัทฯ ได้เก็บข้อมูลอีกต่อไป ซึ่งในหลายๆ กรณีอาจนานถึง 10 ปีหลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับท่านสิ้นสุดลง
  2. บริษัทฯ เห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรักษาไว้นั้นไม่ถูกต้อง หรือ
  3. ท่านได้แจ้งให้บริษัทฯ ทราบว่าท่านไม่ยินยอมให้บริษัทฯ ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลานานขึ้น

  1. ข้อกำหนดหรือข้อบังคับทางกฎหมายกำหนดให้บริษัทฯ ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือ
  2. บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามความรับผิดหรือตามที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลานานกว่าที่กำหนดตราบเท่าที่จำเป็น

8.   การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

บริษัทฯ จะดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ในการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ดังนี้

8.1 บริษัทฯ รักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วยระบบ Secure Socket Layer (SSL) ซึ่งเป็นมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่รับส่งผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงมีการเข้ารหัสข้อมูลและจัดตั้งระบบ Firewall โดยระบบ Secured Socket Layer (SSL) เป็นเทคโนโลยีในการเข้าสู่ข้อมูลผ่านรหัส เพื่อป้องกันผู้ที่แอบดักจับข้อมูลขณะที่มีการส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การเข้าสู่ข้อมูลผ่านรหัสนี้จะทำให้ผู้ดักจับไม่สามารถเข้าใจความหมายของข้อมูลได้ นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวยังใช้สำหรับการยืนยันความมีอยู่จริงของเว็บไซต์อีกด้วย บริษัทฯ จะมีการปรับปรุงและทดสอบระบบเทคโนโลยีของบริษัทอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความปลอดภัยสูงสุดและน่าเชื่อถือ ในการนี้บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเครื่องมือการรักษาความปลอดภัย หากบริษัทฯ เห็นว่าเครื่องมือดังกล่าวมีมาตรฐานสูงขึ้นและสามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ดีมากยิ่งขึ้น

8.2  บริษัทฯ ทำบันทึกข้อตกลงไว้กับบุคคลภายนอกในการพัฒนาและดูแลรักษาระบบ และการจัดสรรทรัพยากรหรือบริการในนามของบริษัท ดังนั้น บุคคลภายนอกที่เข้ามาดำเนินงานให้บริษัทฯ หรือดำเนินการในนามของบริษัทฯ จะต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัยด้วยเช่นกัน

8.3  บริษัทฯ จะปฏิบัติตามมาตรฐานธุรกิจและแนวปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตามที่กฎหมายกำหนด และใช้มาตรการทางเทคนิคและองค์กรที่เหมาะสมตามสมควรเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของข้อมูลตามที่กำหนดเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดการสูญหาย มีการเข้าถึง ประมวลผล ดัดแปลง แก้ไข เปิดเผย หรือลบโดยไม่ได้รับอนุญาต

8.4 บริษัทฯ ได้กำหนดให้บุคลากรของบริษัทฯ กลุ่มบริษัท และบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความเป็นส่วนตัวที่เหมาะสมในลักษณะเดียวกัน รวมถึงภาระหน้าที่ในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและในการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับการประมวลผลข้อมูล

8.5 บริษัทฯ จะปฏิบัติต่อข้อมูลอื่นที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล แต่เมื่อนำมารวมกับข้อมูลอื่น ๆ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องจะสามารถใช้ระบุตัวตนของท่านได้ ด้วยมาตรฐานเดียวกับข้อมูลส่วนบุคคล

8.6 บริษัทฯ มีการตรวจสอบการจัดเก็บและมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวเมื่อจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การรักษาความปลอดภัยตามความเหมาะสมของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้วบริษัทฯ จะใช้ขั้นตอนและคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

8.7 บริษัทฯ จะรักษาและปรับปรุงขั้นตอนและมาตรการด้านความปลอดภัยของบริษัทฯ เพื่อให้ได้ระดับความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับความเสี่ยงแต่ละประเภท และเพื่อให้การประมวลผลข้อมูลอยู่ภายใต้การเก็บรักษาความลับอย่างสมบูรณ์ พร้อม คล่องตัว และอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการป้องกันการสูญหายและการเก็บรวบรวม การใช้ การดัดแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งบริษัทกำหนดให้นำมาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ เหล่านี้มาใช้กับการประมวลผลข้อมูลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์หรือในรูปแบบเอกสารก็ตาม

8.8  บริษัทฯ รับรองว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ได้เก็บรวบรวมจะถูกเก็บไว้รักษาไว้อย่างมั่นคงและปลอดภัยภายใต้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด หากท่านมีเหตุอันเชื่อได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด หรือหากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามรายละเอียดช่องทางการติดต่อซึ่งมีรายละเอียดอยู่ภายใต้หัวข้อ “ติดต่อบริษัท” ในนโยบายฉบับนี้

9.     คุกกี้ (Cookies) และบันทึก (Log)

บริษัทฯ อาจใช้คุกกี้และบันทึกเพื่อพัฒนาการให้บริการแก่ท่านผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

9.1  คุกกี้ (Cookies) หมายถึง ข้อมูลที่ได้ส่งจากเว็บไซต์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ในขณะที่ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นกำลังเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ทั้งนี้ คุกกี้ยังช่วยให้เว็บไซต์ของบริษัทฯ จดจำท่านและรายการที่ท่านชอบหรือเข้าถึงเป็นประจำ อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทฯ สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะกับความต้องการของท่าน ข้อมูลที่รวบรวมโดยคุกกี้ คือ ข้อมูลการตั้งค่าส่วนบุคคลแบบไม่ระบุตัวตน ดังนั้นจะไม่มีข้อมูลที่เป็นชื่อ ที่อยู่หรือข้อมูลอื่นใดที่ทำให้บุคคลอื่นสามารถติดต่อท่านโดยทางโทรศัพท์ อีเมล หรือวิธีการอื่น ๆ ได้ และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ในคุกกี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถปิดการใช้งานคุกกี้ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน แต่การปิดการใช้งานอาจส่งผลต่อท่านในการใช้งานเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์ของ             บริษัทฯ ซึ่งอาจทำให้ท่านทำธุรกรรมกับบริษัทฯ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ยาก และบริษัทฯ อาจต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากท่าน

9.2  บันทึก (Log) หมายถึง ข้อมูลที่เกิดจากการใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งรวมถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของแอปพลิเคชัน

10.    กิจการเกี่ยวกับการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการตลาด และการส่งเสริมการตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์ การบริการ และกิจการที่น่าสนใจให้แก่ท่าน หากท่านตกลงรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวแล้ว ประสงค์จะยกเลิกการรับข้อมูลดังกล่าว ท่านสามารถดำเนินการได้โดยแจ้งผ่านช่องทางการติดต่อได้ภายใต้หัวข้อ “ติดต่อบริษัท” ในนโยบายฉบับนี้

11.    ข้อยกเว้นการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่ไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เช่น

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะก่อนหรือขณะที่ท่านได้เปิดเผยข้อมูลให้แก่บริษัทฯ หรือการเปิดเผยต่อสาธารณะนั้นมิใช่ความผิดของบริษัทฯ
  2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยได้รับความยินยอมจากท่านไม่ว่าเป็นลายลักษณ์อักษร หรือการอนุญาตโดยวิธีการอื่นใด
  3. การเปิดเผยข้อมูลตามความจำเป็น เนื่องจากกระทำตามกฎหมาย คำสั่ง กฎข้อบังคับ คำสั่งศาล หน่วยงานของรัฐ หรือตามความจำเป็นอื่นใด

12.    การปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจมีการปรับปรุงแก้ไข รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทที่เปลี่ยนแปลงไป หรือเพื่อให้สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทฯ จะประกาศการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ 

13.    การติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือประสงค์จะยื่นข้อร้องเรียนใด ๆ หรือประสงค์จะใช้สิทธิของท่าน ท่านสามมารถติดต่อบริษัทฯ ได้ที่ช่องทางติดต่อดังนี้

  1. ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โทรศัพท์: 02-028-2828 
  2. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เลขที่ 72 อาคารโทรคมนาคม บางรัก ชั้น 20 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

E-mail : SgcDPO@sgcapital.co.th

  1. ช่องทางการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปรากฎหน้าเว็บไซด์บริษัท ลิงก์ https://sg-prod-web.singerthai.co.th:28909/SingerConsent